จากการถกถ้อยกับพระเตช ในช่วงเวลาในการถกกันแกเหมือนยึดสิ่งที่ตนถิอเสียเหลือเกิน จนผมและท่านอื่นๆเหนื่อยหน่าย แต่เมื่อย้อนกลับไปค้นกระทู้เก่าๆมาเทียบแล้วผมว่าแกเฉออกจากทางน้อยลงเยอะ งั้นก็ขอถวายเพิ่มเติมครับ
สิ่งที่ท่านเตชพึงสังเกตุดีๆเวลานึกหรือใช้ความคิดเลยคือเรื่องของ
1.ทิฐิ 2
1.1.สัสสตทิฐิ = เชื่อว่าเที่ยงแท้จิรัง มีอัตตาสูงสุด ความเป็นอมตะมี <== และผมขอบคุณที่ท่านพยายามต่อสู้กับคนพวกนี้
1.2.อุจเฉททิฐิ = เชื่อว่าเมื่อแตกดับจะขาดสูญหมดเรื่องกัน <== ท่านมักพาตัวมาอยู่ในพวกนี้ แต่จากกระทู้ล่าสุดเห็นพัฒนาการว่าพยายามทำใจเป็นกลางๆขึ้น
2.นัตถิกทิฐิ จริงๆเป็นหมวดของทิฐิ(ทิฏฐิ)3แต่ยกมาตัวเดียว เพราะท่านเตชเข้มข้นมาก ทิฐิตัวนี้เป็นญาติสนิทกับอุจเฉททิฐิ อีกตัวเชื่อว่าไม่มีอีกตัวเชื่อว่าขาดสูญ ถ้าคิดว่ามีจิตให้ลองมองดีๆ จังหวะที่ท่านบอกว่านู่นไม่มีนี่ไม่มี นั่นขาดสูญนั้น มันจะมีอารมณ์ของวิภวตัณหามาเจือเสมอ (แต่นัตถิกทิฐินี้ไม่ใช่แลวร้ายถ่ายเดียว หลายครั้งเมื่อปัญญายังไม่พร้อม เราอาจใช้นัตถิกทิฐินี้ปราบกิเลสตัวอื่นได้เช่นกัน)
3.อัสมิมานะ การเชื่อว่าข้าก็ที่หนึ่ง เป็นผู้เดียวที่รู้ ตัวนี้ผมเคยเป็น พอไปเสาะแสวงหาแล้ว ครูบาอาจารย์ที่ยังมีชีวิตอยู่และจากไปแล้ว ที่ถึงพร้อม เป็นอริยะบุคคลมีไม่ใช่น้อยทีเดียว เพราะฉนั้นเมื่อกำลังมีความรู้ว่าข้าที่หนึ่ง ลองมองสภาวะตอนนั้นให้ดีว่าร้อนหรือสงบ
4.การเชื่อว่าฮินดูพูดเรื่องตายแล้วเกิด เขาไม่ได้พูดครับ เขาพูดแต่เรื่องอวตาร เป็นคนละเรื่องกับเวียนว่ายตายเกิด
5.ถ้าปฏิบัติอยู่ ระวังวิปัสสนูปกิเลส ในข้ออุเบกขาครับ
อย่าเป็นพวกนอกรีต ด้วยเพียงอัสมิมานะ
สิ่งที่ท่านเตชพึงสังเกตุดีๆเวลานึกหรือใช้ความคิดเลยคือเรื่องของ
1.ทิฐิ 2
1.1.สัสสตทิฐิ = เชื่อว่าเที่ยงแท้จิรัง มีอัตตาสูงสุด ความเป็นอมตะมี <== และผมขอบคุณที่ท่านพยายามต่อสู้กับคนพวกนี้
1.2.อุจเฉททิฐิ = เชื่อว่าเมื่อแตกดับจะขาดสูญหมดเรื่องกัน <== ท่านมักพาตัวมาอยู่ในพวกนี้ แต่จากกระทู้ล่าสุดเห็นพัฒนาการว่าพยายามทำใจเป็นกลางๆขึ้น
2.นัตถิกทิฐิ จริงๆเป็นหมวดของทิฐิ(ทิฏฐิ)3แต่ยกมาตัวเดียว เพราะท่านเตชเข้มข้นมาก ทิฐิตัวนี้เป็นญาติสนิทกับอุจเฉททิฐิ อีกตัวเชื่อว่าไม่มีอีกตัวเชื่อว่าขาดสูญ ถ้าคิดว่ามีจิตให้ลองมองดีๆ จังหวะที่ท่านบอกว่านู่นไม่มีนี่ไม่มี นั่นขาดสูญนั้น มันจะมีอารมณ์ของวิภวตัณหามาเจือเสมอ (แต่นัตถิกทิฐินี้ไม่ใช่แลวร้ายถ่ายเดียว หลายครั้งเมื่อปัญญายังไม่พร้อม เราอาจใช้นัตถิกทิฐินี้ปราบกิเลสตัวอื่นได้เช่นกัน)
3.อัสมิมานะ การเชื่อว่าข้าก็ที่หนึ่ง เป็นผู้เดียวที่รู้ ตัวนี้ผมเคยเป็น พอไปเสาะแสวงหาแล้ว ครูบาอาจารย์ที่ยังมีชีวิตอยู่และจากไปแล้ว ที่ถึงพร้อม เป็นอริยะบุคคลมีไม่ใช่น้อยทีเดียว เพราะฉนั้นเมื่อกำลังมีความรู้ว่าข้าที่หนึ่ง ลองมองสภาวะตอนนั้นให้ดีว่าร้อนหรือสงบ
4.การเชื่อว่าฮินดูพูดเรื่องตายแล้วเกิด เขาไม่ได้พูดครับ เขาพูดแต่เรื่องอวตาร เป็นคนละเรื่องกับเวียนว่ายตายเกิด
5.ถ้าปฏิบัติอยู่ ระวังวิปัสสนูปกิเลส ในข้ออุเบกขาครับ